ภาวะมรสุมภูมิวิกฤติ : มีแต่เนิ่นนานทั้งทางพันธุกรรมและร่วมกับการติดเชื้อจนโควิด-19
ไทยรัฐ สุขภาพหรรษา หมอดื้อ
ภาวะมรสุมภูมิวิกฤติ เป็นที่ทราบมาเนิ่นนานพอสมควร ตั้งแต่เกิดจากความผิดปกติทางกรรมพันธุ์หรือมีความโน้มเอียงในทางพันธุกรรม และพบได้ตั้งแต่เด็กอายุน้อยจนกระทั่งถึงกลางคนและผู้ใหญ่และส่งผลกระทบได้ทุกระบบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องข้อ ผิวหนัง หลอดเลือดสมอง เส้นประสาทหรือปอดและหัวใจ #สำหรับเจ้าหน้าที่สาธารณสุข
โรคในผู้ใหญ่ที่พบได้พอสมควรและมีอาการอักเสบของตา ปาก ผิวหนัง ปอด หัวใจและสมอง เช่น Behcet’s disease และ sweet syndrome
เหล่านี้เป็นปรากฏการณ์ของ auto-inflam-matory diseases ซึ่งเป็นระบบภูมิคุ้มกันที่ทำงานรวดเร็วว่องไว innate immunity แต่ทำงานมากเกินไป ทำให้เกิดโรครุนแรงขึ้น และยังเกิดขึ้นร่วมกับการติดเชื้อต่างๆ ยกตัวอย่างเช่น การติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ หรือไวรัส ไข้เลือดออก dengue และแม้กระทั่งที่พบในโควิด-19 โดยทำให้เกิดอาการทางสมอง ถ้าเกิดขึ้นรวดเร็วภายในระยะเวลาสัปดาห์แรก จะรวมกลุ่มอยู่ในกระบวนการเหล่านี้ เช่น มีหลอดเลือดรั่วในสมองปล่อยให้น้ำรั่วออกมา สมองบวมที่ใจกลาง หรือแม้กระทั่งมีตกเลือดซ้ำซ้อน Acute necrotizing และ hemorrhagic encephalopathy ตามลำดับ
และถ้าเกิดในระยะเวลาถัดมา จะเป็นกระบวนการภูมิคุ้มกันในระบบ adaptive immunity ซึ่งมีลักษณะเฉพาะเจาะจงกว่า เป็น autoimmune disease โดยทำงานแปรปรวนและจะไปทำลายผิดเป้าหมายโดยคิดว่าสมองไขสันหลังและเส้นประสาทตนเองเป็นเชื้อโรค เกิดเป็นอาการทางสมอง acute disseminated encephalomyelitis และกับเส้นประสาท ทำให้อ่อนแรงแขนขาและทั้งตัวและกล้ามเนื้อใบหน้า
และถ้าเป็นมากจะหายใจไม่ได้ (Guillain Barre syndrome-GBS) ซึ่งอาจจะเกิดกับเส้นประสาทเดี่ยวหรือหลายเส้นโดยที่ไม่เป็นทั้งตัวหรือเกิดมีอาการคาบเกี่ยวกันหลายอย่างทางการเคลื่อนไหวลูกตา การทรงตัว (Miller Fisher syndrome) หรือเส้นประสาทใบหน้าอย่างเดียว
อย่างไรก็ตาม GBS ยังเกิดได้ทั้งๆที่มีไวรัสอยู่ในเส้นประสาท และภูมิพยายามทำลายไวรัส โดยไม่ได้เป็นการเข้าใจผิดว่าเส้นประสาทเป็นไวรัส เช่น ในโรคพิษสุนัขบ้าที่มีอาการแบบ GBS (paralytic rabies) และไม่มีกลัวน้ำ กลัวลม
ภาวะภูมิวิกฤติแบบแรก ที่พบในโควิด-19 จะอักเสบรุนแรงและกว้างขวางโดยกระทบทุกอวัยวะในร่างกาย (Systemic thrombo-inflam-matory disease) จนกระทั่งทำให้เลือดข้น มีลิ่มเลือดอุดตัน รวมกระทั่งถึงมีการอักเสบในหลอดเลือดขนาดเล็กจนกระทั่งถึงขนาดกลาง และปล่อยให้ผนังหลอดเลือดรั่วมีน้ำซึมออก ทำให้มีเนื้อเยื่อบวม และกระทบทำให้เกิดมีความดันตกจนกระทั่งช็อก
สำหรับภาวะภูมิวิกฤติที่เกิดขึ้นเฉพาะส่วนและอาจมองข้ามไปว่าอยู่ในกรอบของความผิดปกติเดียวกันคือ โรคสะเก็ดเงิน โดยที่ยาที่มีออกมารักษานั้น จะเป็นแอนติบอดี (monoclonal antibody) ที่ขัดขวางการทำงานของ IL 17 หรือ IL 23 โดยเฉพาะถ้าโรคสะเก็ดเงินนั้น มีข้ออักเสบร่วมด้วย
กลไกของภูมิวิปริตเช่นนี้เกิดจากการขาดความสมดุลของ T เซลล์ ประเภทที่ 1 และ 2 จนกระทั่งอยู่นอกการควบคุมของ T reg
แล้วยังส่งผลไปถึงเซลล์แมคโครฟาจ macrophage โดยการทำงานเบี่ยงเบนไปในทาง M1 มากกว่า M2 และการทำงานดังกล่าวจะเป็นการปล่อยสารที่ทำให้เกิดการอักเสบออกมามากมาย แทนที่จะเลือกการทำงานในการกำจัดแบบเขมือบมิดชิดเรียบร้อยไม่เละเทะ (efferocytosis)
กระบวนการทั้งหมดที่กล่าวยังเกิดขึ้นได้ในโรคทางสมอง เช่น สมองเสื่อม อัลไซเมอร์พาร์กินสัน โดยเป็นการอักเสบที่เกิดขึ้นช้าๆ แต่ต่อเนื่องและกระพือให้เซลล์สมองตายเร็วและกระบวนการใช้พลังงานอย่างประหยัดมัธยัสถ์เอาขยะมารีไซเคิล และเอาขยะส่วนเกินทิ้งระบายออกอย่างเป็นระเบียบ แปรปรวนไปหมด รวมถึงการนอนผิดปกติ โดยที่การนอนดี ยังจะช่วยระบายขยะในสมองออกไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ความเข้าใจในเรื่องของ “มรสุมภูมิวิปริต” เหล่านี้อธิบายโรคในร่างกายที่เกิดขึ้นเฉพาะระบบหรือทั้งตัวและที่เราอาจมองข้ามไปอีกก็คือ เส้นเลือดหัวใจหรือเส้นเลือดสมองตัน อัมพฤกษ์
ทั้งนี้ โดยที่การอักเสบดังกล่าวที่เกิดจากการสูบบุหรี่ เบาหวาน อ้วน การได้รับมลพิษจากอากาศ อาหารและสารเคมี เป็นต้น ทำให้ผนังเส้นเลือดผิดปกติ และทำให้ไขมันเลวแทรกตัวเข้าไปในผนังเส้นเลือดและเข้าไปกระจุกอยู่ในผนังชั้นกลางและก่อให้เกิดการอักเสบซ้ำซ้อนอีก
และเป็นที่มาของการศึกษาตั้งแต่ปี 2017 ที่แสดงว่า ถ้าลดหรือจำกัดการอักเสบ ระบบ innate ได้ดี จะป้องกันการเกิดเส้นเลือดหัวใจตันซ้ำ โดยไม่ต้องลดระดับไขมันเลวลงไปเสียทั้งหมด
ประเด็นของการลดหรือกำจัดการอักเสบเหล่านี้อยู่ที่สิ่งแวดล้อม มลภาวะ อาหารการกิน โภชนาการ การควบคุมความอ้วนเบาหวานและถึงแม้มีชะตากรรมที่ทำให้เป็นโรคสมองเสื่อมหรือแม้แต่กำลังเป็นอยู่ การลดทอนการอักเสบโดยการปรับชีวิตความเป็นอยู่ อาหารการกิน จะทำให้โรคพัฒนาไปช้าและมีชีวิตยืนยาวอย่างมีคุณภาพ
และจบลงที่ว่า การที่เราทราบถึงกระบวนการของโรคที่ทำให้เกิดความเสียหายจะทำให้เราใช้ยาได้อย่างถูกต้อง
และทำไมหมอเองถึงพิจารณา การใช้กัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ ในโรคต่างๆ เนื่องจากกัญชาลดทอนการอักเสบทั้งสองระบบและยังปรับการฟื้นฟู และในสมองเร่งการสร้างเซลล์ใหม่ให้เป็นเซลล์ถาวรที่ทำงานร่วมกับเซลล์เดิม (neuro-repair Neurorehabilitation และ neurogenesis และ neuroplasticity)
และใน “โควิด-19” ถึงเวลาที่เราต้องจริงจังในการนำกัญชามาคุมมรสุมภูมิวิปริตได้หรือยัง.
หมอดื้อ
Total Page Visits: 1948 - Today Page Visits: 2